ทีมชาติบราซิลเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 1970 อย่างยิ่งใหญ่ หนึ่งในทีมฟุตบอลที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดตลอดกาลของโลกลูกหนัง
ซัมเมอร์ปี 1972 บราซิล ฉลองการได้รับเอกราชครบ 150 ปี ด้วยการจัดทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลรายการพิเศษ ที่เรียกได้ว่าเป็น "มินิ เวิลด์ คัพ" ในชื่อว่า "บราซิล อินดีเพนเดนซ์ คัพ"
มีทีมจากทั่วทุกทวีปทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน (แอฟริกา กับ คอนคาเคฟ คัดนักเตะรวมมาเลย ไม่ได้แยกประเทศ) รวมทั้งสิ้นถึง 20 ทีมด้วยกัน และหนึ่งในนั้นคือ ไอร์แลนด์
นั่นเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์บนเกาะไอร์แลนด์ตรึงเครียดอย่างหนักจากความพยายามแบ่งแยกดินแดน เดือนมกราคม 1972 ก็มีเหตุการณ์นองเลือดในเดอร์รี่ ไอร์แลนด์เหนือ ในชื่อ Bloody Sunday
ความขัดแย้งที่มีมาเป็นร้อยปีบนเกาะไอร์แลนด์ ถูกกดดันให้หนักหน่วงมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการลงนามสนธิสัญญาไอร์แลนด์ ให้ 26 แคว้นทางใต้ ปกครองตนเอง เป็นประเทศเอกราช แต่ 6 แคว้นทางเหนือ ยังอยู่กับสหราชอาณาจักร
ซึ่ง 6 แคว้นทางเหนือนี้เองคือไอร์แลนด์เหนือ ประชากรจำนวนไม่น้อยเป็นคนที่อพยพมาจากเกาะใหญ่ ทั้งอังกฤษและสก็อตติช ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์นิกายแองกลิกันหรือเพรสไบทีเรี่ยน ซึ่งถือเป็นโปรเทสแตนท์ ไม่ใช่คาทอลิกแบบชาวไอริชดั้งเดิม
อยู่ๆ ไป ชาวไอริช ดั้งเดิมที่นับถือคาทอลิก ก็อยากให้ไอร์แลนด์เหนือไปรวมกับไอร์แลนด์ แยกออกมาจากสหราชอาณาจักรแบบเบ็ดเสร็จ เพราะพวกเขาถือว่าตัวเองเป็นไอริช นับถือคาทอลิก ซึ่งแน่นอนว่า คนในไอร์แลนด์เหนือจำนวนมากเป็นคนอังกฤษหรือสก็อต และถือโปรเทสแตนท์ พวกเขาไม่ยอม เลยเกิดความขัดแย้งกันขึ้น จนพวกคาทอลิก ก่อตั้งขบวนการ IRA เพื่อแยกดินแดนกันขึ้น นี่คือที่มาของความขัดแย้ง
ยุค 70s เป็นช่วงที่ความรุนแรงและตึงเครียดพุ่งสูงสุด มีความพยายามให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว เกิดสันติภาพขึ้นในหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือฟุตบอล
ทัวร์นาเมนต์รายการพิเศษที่บราซิลในซัมเมอร์ปี 1972 ดำเนินไป ไอร์แลนด์ ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก แต่ขณะนั้น หลุยส์ คิลคอยน์ ประธานสมาคมฟุตบอลแห่งไอร์แลนด์ ก็มีความคิดหนึ่งเกิดขึ้น
เขาไปรอเข้าพบ โจอัว ฮาเวลานเก้ (ชูเอา ฮาเวลานช์) ประธานสมาคมฟุตบอลแห่งบราซิลในตอนนั้นนานถึงหนึ่งวันครึ่ง เพื่อขอเจรจาบางอย่าง
หลังจากได้พบ เขาก็ยื่นข้อเสนอว่า อยากให้ทีมชาติบราซิล ไปเตะในดับลิน โดยจะเตะกับทีม "รวมไอร์แลนด์" คือทีมที่มีผู้เล่นของทั้งไอร์แลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ อยู่ในทีมเดียวกัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความกลมเกลียว ความสามัคคีระหว่าง 2 ไอร์แลนด์
เวลานั้น ฮาเวลานเก้ เตรียมลงชิงตำแหน่งประธานฟีฟ่า อยู่พอดี และ หลุยส์ คิลคอยน์ ก็รับปากว่าสมาคมฟุตบอลไอร์แลนด์จะโหวตให้ ฮาเวลานเก้
เดิมทีบราซิลนั้นเป็นทีมที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยสตาร์อยู่แล้ว แต่หลายครั้งพวกเขาเจอกับทีมจากยุโรปแล้วพ่ายแพ้ ก็เพราะสู้เรื่องความแข็งแรง พละกำลังไม่ไหว
บราซิล มีแผนจะไปทัวร์ยุโรปในซัมเมอร์ปี 1973 อยู่แล้ว ตระเวนเตะหลายเกมเพื่อศึกษาคู่แข่งจากชาติยุโรป เตรียมไว้ลุยศึกฟุตบอลโลก 1974 ที่เยอรมันตะวันตก
เมื่อได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจจาก คิลคอยน์ ทาง ฮาเวนลานเก้ ก็ตอบตกลง
เกมประวัติศาสตร์นี้ จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 1973 ที่แลนส์ดาวน์ โร้ด กรุงดับลิน ในไอร์แลนด์
หลุยส์ คิลคอยน์ เพิ่งเทคโอเวอร์สโมสรอย่าง แชมร็อค โรเวอร์ส มาไม่นาน เขาเลยขอให้ เลียม ทูโอฮี ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้จัดการทีมของ แชมร็อค โรเวอร์ส ควบกับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์ เข้ามารับบทคุมทีม "รวมดาราไอร์แลนด์" ทีมพิเศษทีมนี้
ส่วนเรื่องของนักเตะเขาพึ่งพาบริการของ 2 ดาวดัง
คนแรกคือ จอห์นนี่ ไจล์ส มิดฟิลด์ทีมชาติไอร์แลนด์ เริ่มต้นอาชีพกับแมนฯ ยูไนเต็ด หลังเหตุการณ์ที่มิวนิคภายใต้แม็ทท์ บัสบี้ แต่แล้วย้ายไปดังและเป็นตำนานกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด
คิลคอยน์ สนิทกับ ไจล์ส เป็นพิเศษเพราะเขาแต่งงานกับน้องสาวของ จอห์นนี่ ไจล์ส เรียกได้ว่าเป็นพี่เขย น้องเขย กันอยู่แล้ว
อีกคนคือ ดีเร็ค ดูแกน กองหน้าตัวเก่งของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งถือเป็นหัวหอกจอมเก๋าของทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ
นักเตะทั้ง 2 คนได้รับหน้าที่ให้ไปชักชวนผู้เล่นที่สนใจอยากมารวมพลัง เพื่อความสามัคคีในแม็ทช์นี้
ทางไอร์แลนด์เหนือ แสดงความไม่พอใจ สมาคมฟุตบอลไอริช (ไอร์แลนด์เหนือ) ประกาศว่าถ้า ดีเร็ค ดูแกน ไปเข้าร่วมแม็ทช์นี้ จะโดนตัดจากทีมชาติตลอดไป
เหตุผลส่วนหนึ่งคือ กลัวว่าในอนาคตอาจมีการควบรวม 2 สมาคมฟุตบอลเข้าไว้ด้วยกัน (สมาคมรักบี้ไอริช คือตัวอย่าง พวกเขาเป็นตัวแทนทีมชาติของทั้ง ไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ)
อย่างไรก็ดี ดีเร็ค ดูแกน ดูจะไม่สนใจ เพราะอันที่จริง เขาเองก็เริ่มโรยราแล้ว อายุ 35 ปี การจะติดทีมชาติหรือไม่ติด อาจไม่ใช่ประเด็นใหญ่อีกต่อไป
ผลก็คือ มีนักเตะหลายคนมาเข้าร่วมแม็ทช์นี้ ฝั่งไอร์แลนด์ ประกอบด้วย แพดดี้ มัลลิแกน จากพาเลซ, ทอมมี่ แคร์โรลล์ จากเบอร์มิงแฮม,จอห์นนี่ ไจล์ส, มิค มาร์ติน จากแมนฯ ยูไนเตด, เทอร์รี่ คอนรอย จากสโต๊ค, เมียห์ เดนเนฮี จากฟอเรสต์ และ ดอน กิฟเว่นส์ จากคิวพีอาร์
ส่วนนักเตะไอร์แลนด์เหนือนำโดยมือกาวจากสเปอร์ส แพ็ท เจนนิ่งส์ มี มาร์ติน โอนีล ซึ่งขณะนั้นเป็นดาวรุ่งวัย 20 ปี จากฟอเรสต์, เดวิด เครก จากนิวคาสเซิ่ล, อลัน ฮันเตอร์ จากอิปสวิช, เลียม โอเคน จากฟอเรสต์, ไบรอัน แฮมิลตัน จากอิปสวิช และ เดเร็ค ดูแกน
ฝั่งบราซิลที่มี มาริโอ ซากัลโล่ คุมทัพ แม้ไม่ใช่ทีมที่สมบูรณ์ แต่ก็มีแข้งจากชุดแชมป์โลกปี 70 หลายราย นำโดย แจร์ซินโญ่ และ ริเวลิโน่ นอกจากนั้นยังมี ปิอัซซ่า, มาร์โก อันโตนิโอ, โกลโดอัลโด้, เซ มาเรีย, เปาโล เซซาร์ คาชู และ ดีร์เซว
บวกกับตัวที่จะกลายเป็นตัวหลักทีมชาติยุคใหม่อย่าง เอเมอร์สัน เลเอา นายทวารวัย 24 ปี, หลุยส์ เปเรยร่า, วัลโดมิโร่
เดิมทีฝั่งไอร์แลนด์ อยากใช้ชื่อ ไอร์แลนด์ XI แต่ด้วยความกังวลจะยิ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสมาคมฟุตบอลทั้งสองฝั่ง เลยใช้ชื่อ แชมร็อค โรเวอร์ส XI แทน เนื่องจากเกมนี้ ผู้เล่นไอร์แลนด์ก็สวมชุดแข่งของ แชมร็อค ลงสนามด้วย
เกมนี้ จบลงด้วยชัยชนะของบราซิล 4-3 ผู้ทำประตูให้ทีมแซมบ้าคือ วัลโดมิโร่, แจร์ซินโญ่ และ เปาโล เซซาร์ คาชู 2 ลูก
ขณะที่ไอริชทีม ได้ประตูจาก ดีเร็ค ดูแกน, มิค มาร์ติน และ เทอร์รี่ คอนรอย
แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่ทีมรวมไอร์แลนด์ก็ถือว่ามีผลงานน่าพอใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ทีมชาติบราซิลเสียถึง 3 ประตูในเกมเดียว
หลุยส์ คิลคอยน์ ทำตามสัญญา เขาโหวตให้ โจอัว ฮาเวลานเก้ ที่ได้กลายเป็นประธานฟีฟ่า อย่างยาวนานถึง 24 ปี 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม นั่นคือครั้งเดียวที่ไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ได้ร่วมทีมกัน และมันยังต้องรอเวลาอีกกว่า 30 ปีกว่าที่สถานการณ์ความขัดแย้งบนเกาะไอร์แลนด์จะสงบลงหลังผ่านกระบวนการเจรจากันมาอย่างยาวนาน
เพิ่มความสนุกในการดูกีฬาให้คุณ มาลองกันกับ MYSBOBET บริการดี ดูแลฉับไว ติดต่อเลยที่ https://line.me/R/ti/p/@my-sb99 หรือ 08-0003-1188 / 08-0003-117
---------------------------------------------
เห็นก่อน อ่านก่อน !!
กด "ติดตาม" และเลือก "เห็นโพสต์ก่อน (See First) "
https://www.facebook.com/cheerball/
บทความดีๆ เรื่องราวกีฬาฟุตบอล
เรานำเสนอให้คุณได้อ่านทุกวัน
---------------------------------------------