สกอร์ถล่มทลายแบบคาดไม่ถึงเหมือนกันสำหรับ 'บิ๊กแมตช์' ประจำวันเสาร์นี้ในเกมระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
อย่างที่ทราบกันดีว่าในฤดูกาลนี้ "จิ้งจอกสยาม" ฟอร์มดิ่งลงเหวมากๆเลยนะครับและก่อนหน้า เคลาดิโอ รานิเอรี่ เองก็ยอมรับว่าอาจจะต้องลุ้นหนีตกชั้น

แถมก่อนมาเจอกับ "เรือใบสีฟ้า" ยังทะลึ่งนำทีมบุกไปแพ้ ปอร์โต้ ถึง 5-0 ใน แชมเปี้ยนส์ลีก ซะอีกถึงแม้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรองก็เถอะ
ใครจะไปคิดล่ะครับว่าในนัดนี้ "จิ้งจอกสยาม" ในรูปแบบเดิมๆจะกลับมาอีกครั้งพร้อมกับแฮตทริคของ เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าตัวเก่งที่ฟอร์มฝืดไปนาน
การวางบอลยาวแล้วให้ทั้ง วาร์ดี้, สลิมานี่ และ มาห์เรซ วิ่งไล่นี่แหละครับคือสิ่งที่คุ้นตาเพราะในฤดูกาลก่อน "จิ้งจอกสยาม" ก็เล่นแนวๆนี้แหละแต่เปลี่ยนจาก สลิมานี่ เป็น โอกาซากิ เท่านั้นเอง

3 ลูกใน 20 นาทีหากมองดูดีๆนี่เป็นการโยนยาวจากหลังขึ้นหน้าหมดเลยนะครับประตูของ วาร์ดี้ ทั้ง 2 ลูกนี่ชัดเจนมากๆนะครับ ประตูแรกนี่เป็นการโยนยาวมาให้ มาห์เรซ แตะจังหวะเดียวผ่านถึง สลิมานี่ ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ วาร์ดี้ เข้าไปซัดผ่าน บราโว่
ลูกที่สองก็เป็นจังหวะทุ่มไกลเข้าไปก่อนจะจบด้วยการยิงของ คิง ลูกที่ 3 ก็เป็นจังหวะโยนยาวคล้ายๆกับประตูแรกแต่คราวนี้เล่นกันเพียงแค่ 2 คนคือ มาห์เรซ กับ วาร์ดี้ เข้าไปกระทุ้งแบบเหนือๆ
มันบ่งบอกอะไร ?

บ่งบอกว่าแนวรับของ "เรือใบสีฟ้า" มันเปรียบเสมือนว่าไม่ได้ฝึกซ้อมด้วยกันมาเลยทั้งอาทิตย์ยังไงอย่างนั้น โอ้โห รั่วอะไรขนาดนั้นล่ะครับแหม่ ยิ่งคิดก็ยิ่งน่าใจหายแทน เป๊ป กวาดิโอล่า เหมือนกันกับการที่พวกเขาโดนไปแบบนี้
จอห์น สโตนส์ ปราการหลังดาวรุ่งค่าตัวแพงพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แถมมีส่วนผิดพลาดเต็มข้อจังหวะเสียลูกที่ 4 อีกต่างหากซึ่ง อาการบาดเจ็บของ แวงซองต์ กอมปานี ดูท่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ซักที
นิโกลัส โอตาเมนดี้ เองเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็แย่ แต่ผมเชื่อว่าหากเขาไม่โดนแบนในเกมนี้รูปเกมของ "เรือใบสีฟ้า" อาจจะไม่เละตุ้มเป๊ะขนาดนี้นะครับ การเอา ซาญ่า หุบเข้ามาเล่นนี่หายนะพอตัวเลยทีเดียว

ในส่วนของ เคลาดิโอ บราโว่ นี่ยอมรับนะครับว่าเวลาใช้เท้าอ่ะ นิ่งจริงๆ เล่นได้ แต่ผู้รักษาประตูต้องใช้มือครับอย่าลืมจุดนี้ มันต้องมีจังหวะเซฟสำคัญบ้างอย่างลูก วาร์ดี้ หลุดเดี่ยวไป 2 ครั้งจนเสียประตูเนี่ยในความคิดของผมนายด่านทีมระดับ "เรือใบสีฟ้า" น่าจะทำได้ดีกว่าที่เห็น
ชัยชนะในครั้งนี้ของ เลสเตอร์ ดูเหมือนว่าจะฉุดพวกเขาให้ขึ้นมาจากนรกได้อีกครั้ง และช่วงนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีซะด้วยในการเก็บแต้มให้หลุดพ้นออกมาจากโซนอันตราย
เพราะในช่วงปีใหม่ "จิ้งจอกสยาม" ไม่ได้มีคิวจะต้องฟัดกันบิ๊กทีมแต่อย่างใด พวกเขาจะพบกับ บอร์นมัธ, สโต๊ค, เอฟเวอร์ตัน, เวสต์แฮม และ มิดเดิ้ลสโบรห์ ปิดท้ายโปรแกรมหฤโหด

ทีมที่กล่าวมาหากว่า เลสเตอร์ ยังคงสภาพฟอร์มการเล่นได้ในแบบนัดพบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ล่ะก็พวกเขาดีพอที่จะโค่นได้ทั้งหมดนะครับ และนั่นก็จะทำให้โล่งไปได้เปราะหนึ่งล่ะว่าอย่างน้อยๆคงไม่ต้องไปหนีตกชั้นช่วงท้ายฤดูกาล
แต่ทาง "เรือใบสีฟ้า" นี่สิ เป๊ป จะต้องนำลูกทีมพบกับทั้ง อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล ในช่วงโปรแกรมโหดบ็อกซิ่งเดย์ยันปีใหม่

เดือนธันวาคมอาจจะเป็นเดือนแห่งความสุขของหลายๆคน แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่ใช่เดือนแห่งความสุขของ เป๊ป กวาดิโอล่า และแฟนๆของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซะแล้วครับ
เพราะตอนนี้พวกเขาแพ้ทั้ง เชลซี และ เลสเตอร์ มาติดต่อกัน 2 นัดในลีกแล้ว
เค.เค.pic : zimbio