SCAN LINE QR CODE @cheerballth

ข่าว

[ #ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ ]

อัพเดตเมื่อ : April 08, 2021 6:46am โดย : admin

เจสซี่ ลินการ์ด อาจไม่ได้เป็นแมนคูเนี่ยนหรือชาวแมนเชสเตอร์โดยตรง แต่วาร์ริงตันเมืองที่เกิดอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเพียงแค่ 26 ไมล์เท่านั้น

แล้วตอนที่เขาลืมตาดูโลกคือปลายปี 1992 ซึ่งเป็นยุคเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ดอย่างแท้จริง

จากนั้นพอโตขึ้นมา 4-5 ขวบเริ่มจำความได้ ก็เป็นช่วงเวลาที่ปีศาจแดงพีกตามลำดับประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกที่เขาจะฝากฝังตัวเป็นกองเชียร์อย่างเต็มขั้น

ยิ่งเมื่อเข้าไปอยู่อะคาเดมี่ของเฟล็ทเชอร์ มอสส์ เรนเจอร์สถาบันลูกหนังชั้นนำที่ป้อนแข้งเด็กๆสู่สโมสรใหญ่อย่างแมนฯยูไนเต็ดมากมายหลายรุ่น ทุกอย่างจึงดูลงล็อกพอดี

ลินการ์ด เป็นอีกคนที่หวังเดินตามรอย เวส บราวน์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค แข้งรุ่นพี่ที่พัฒนาจนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นของปีศาจแดง

ปี 2000 ลินการ์ด ได้รับคัดเลือกเข้าทีมเยาวชนแมนฯยูไนเต็ดสมปรารถนา โดยที่ไม่เคยสนใจทีมอื่น ตั้งเป้าต้องมาเล่นที่นี่เท่านั้น

เติบโตขึ้นมาอีกหน่อย เริ่มประทับใจ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จนยกให้เป็นไอดอลและวาดความฝันเอาไว้อย่างสวยหรูว่าต้องเล่นให้ได้อย่างนี้

ด้วยเส้นทางเช่นนี้ จึงพอเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่า ลินการ์ด ผูกพันกับแมนฯยูไนเต็ดขนาดไหน

กว่าจะได้ปักหลักในทีมชุดใหญ่อย่างถาวร เขาต้องโดนปล่อยให้สโมสรอื่นยืมตัวใช้งานถึง 4 ครั้งด้วยกัน

ทุกครั้งที่ระหกระเหินไปเล่นให้ จะบอกกับตัวเองว่าต้องตั้งใจมากๆ เพื่อจะได้กลับมาแมนฯยูไนเต็ดอีกครั้ง

ลินการ์ด จึงทุ่มเททุกนัดแม้จะอยู่ในฐานะแข้งยืมตัวก็ตาม เพราะหากผลงานน่าประทับใจไม่ว่าอย่างไรก็ต้องได้หวนคืนสู่ทีมแม่แน่นอน

ครึ่งแรกของซีซั่น 2013/14 เขาระเบิดฟอร์มร้อนแรงในสีเสื้อเบอร์มิ่งแฮม เกมเดอะ แชมเปี้ยนชิพรับการมาเยือนของเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์จัดการกระหน่ำคนเดียว 4 ประตู อีกทั้งยังเป็นเพอร์เฟคต์แฮตทริกอีกต่างหาก

ผลงานสร้างชื่อคราวนั้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ ลินการ์ด อีกมาก อย่างน้อยก็เชื่อเสมอว่าคงได้กลับไปสวมยูนิฟอร์มต้นสังกัดอันเป็นที่รัก

อย่างไรก็ตามเขาต้องพิสูจน์ต่อไปเล่นให้ไบรท์ตันและดาร์บี้ กว่าจะสุกงอมพอเพื่อเล่นให้แมนฯยูไนเต็ด

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เขาจะได้รับข้อเสนอมากมาย สโมสรส่วนใหญ่เข้ามาเกลี้ยกล่อมในทำนองคล้ายกันนั่นคือหากฝืนอยู่แมนฯยูไนเต็ดต่อไป โอกาสได้ลงเล่นมีเพียงแค่น้อยนิด ไม่ง่ายเลยที่จะเบียดพวกรุ่นพี่ซึ่งเป็นแข้งชั้นนำไปเป็นตัวจริง

เขารู้ดีว่านั่นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ไม่ได้แคร์อะไรทั้งสิ้น การเป็นตัวสำรองของปีศาจแดงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายในความรู้สึกเลยด้วยซ้ำ

บางครั้งขอให้มีส่วนร่วมก็เพียงพอแล้ว

-----------------

ก่อนเดดไลน์ตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคมครั้งล่าสุดจะมาถึง มีหลายสโมสรเข้ามาหา ลินการ์ด ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้พิจารณา

เงื่อนไขที่แมนฯยูไนเต็ดวางเอาไว้คือได้แค่รูปแบบยืมตัวเท่านั้น ไม่มีการขายขาดถาวร เพราะเพิ่งใช้อ็อปชั่นขยายไปอีก 1 ปี เป็นการมองไกลเพื่อผลประโยชน์ในวันหน้า

กลุ่มทีมจากท้ายตารางที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นทั้งนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด , เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนและเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด

แต่ ลินการ์ด ปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดมาก แม้จะได้รับการยืนยันจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแล้วว่า หากฝืนอยู่ต่อจะได้ลงเล่นกระปริดกระปรอยแน่นอน ให้ลองไปทบทวนดูใหม่

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2020/21 เปิดฉากเป็นต้นมาเขายังไม่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเลยสักวินาทีเดียว สัมผัสเกมบอลถ้วยคือลีกคัพและเอฟเอคัพรวมกันแค่ 3 นัดเท่านั้น แม้ไม่มีอาการบาดเจ็บมาเกี่ยวข้อง โอกาสก็ริบหรี่อยู่แล้ว

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษเป็นอีกคนที่แนะนำให้ ลินการ์ด ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวซะเถอะ อย่างน้อยที่สุดยังได้มีเกมเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าดีพอสำหรับการกลับมาติดธงอีกครั้ง

ถ้ายังดึงดันจะอยู่ที่เดิมอย่าหวังเลยว่าจะมีชื่อเป็น 23 ขุนพลไปทำศึกยูโร 2020 กลางปีนี้หรือแม้แต่ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกก็แทบเป็นไปไม่ได้

กระทั่งมีข้อเสนอจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ดพุ่งมาหา เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมแสดงเจตนาอยากได้ ลินการ์ด ไปร่วมทีมจริงๆ

หากเป็นผู้จัดการทีมคนอื่น ลินการ์ด มีสิทธิ์ปฏิเสธ แต่เมื่อนึกย้อนอดีตเป็น มอยส์ นี่แหล่ะซึ่งเข้ามาคุมแมนฯยูไนเต็ดต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 2013 แล้วหนีบ ลินการ์ด ติดทีมมาลุยเอเชียช่วงปรีซีซั่นด้วย

แล้วก็เป็น ลินการ์ด อีกเช่นกันที่ซัลโวประตูแรกต้อนรับเจ้านายคนใหม่เอาชนะออลสตาร์เอลีกของออสเตรเลีย 5-1 สร้างความประทับใจประเดิมก่อนใคร

29 มกราคมที่ผ่านมาดีลนี้จึงเรียบร้อย ได้ย้ายก่อนเส้นตายไม่เท่าไร โดยที่ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่า ลินการ์ด จะเค้นฟอร์มเก่งได้อีก

หลายคนประเมินไว้ว่า ลินการ์ด หมดแล้ว จากนี้กราฟจะมีแต่ดิ่งลงเรื่อยๆ แทบมองไม่เห็นเลยว่าจะคืนสู่จุดพีกได้อย่างไรกัน

พฤติกรรมนอกลู่นอกทางที่เคยก่อไว้ยังเกาะติดล้างไม่ออก ไหนจะโดนวิจารณ์เรื่อง Overrated หรือได้รับการยกย่องเก่งเกินฝีเท้าจริง ล้วนแต่เป็นชนักติดหลังทั้งสิ้น

4 วันหลังจากเปิดตัว มอยส์ ตัดสินใจส่ง ลินการ์ด ลงเป็นตัวจริงทันที สร้างความประหลาดใจ รวมทั้งแฟนขุนค้อนจำนวนมากก็ไม่พอใจนัก มองว่ามันเร็วเกินไป น่าจะให้เริ่มต้นบนม้าสำรองไปก่อน

แต่เมื่อเขาจัดการซัดคนเดียว 2 ประตูมีส่วนสำคัญนำทีมสยบแอสตัน วิลล่า 3-1 เสียงเหล่านั้นก็ถูกกลบสนิท

ความสงสัยกังขายังไม่หมดไปหรอก เพราะเพิ่งเกมแรกเท่านั้น อาจแค่หวือหวาไปตามกระแส บางทีอีกไม่นานอาจหายเข้ากลีบเมฆไปเลยก็ได้

ทุกคนมีสิทธิ์คิด ทุกคนมีสิทธิ์วิจารณ์ตามกรอบ แต่คนตอบคำถามคือ ลินการ์ด ซึ่งตอนนี้กระจ่างชัดกันดีแล้ว

8 นัดในลีกยิงไปทั้งสิ้น 8 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ นี่คือผลงานที่โดดเด่นมากสำหรับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ที่สำคัญกำลังจะถูกลืม

เขาได้คัมแบ็กทีมชาติอังกฤษอีกครั้งในรอบครึ่งปี พร้อมฝากผลงานไว้น่าประทับใจมากๆ แม้ยิงประตูไม่ได้ก็ตาม

ทว่ากว่าจะฝ่าด่านผ่านมาถึงจุดนี้ได้ ลินการ์ด ก็ต้องชดใช้กับสิ่งสร้างไว้ไม่ใช่น้อย บาดแผลต่างๆ ล้วนกลายเป็นบทเรียนทำให้แกร่งและเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ไม่ใช่แค่ในสนาม นอกสนามก็ต้องเจอกับปัญหาภายในครอบครัว จากเด็กหนุ่มอารมณ์ดี มีแต่รอยยิ้ม เขาไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

จนกระทั่งย้ายมาเล่นให้เวสต์แฮมนั่นแหล่ะ ลินการ์ด จึงได้รอยยิ้มคืนมาและสนุกกับฟุตบอลอีก

แม้อนาคตจะยังคลุมเครือ แต่เขาอยู่ในสถานะที่เลือกได้ ต่อให้แมนฯยูไนเต็ดพร้อมปล่อย ก็มีสโมสรมากมายอ้าแขนรับอยู่แล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าช่วงเวลาเพียงแค่ 2 เดือนที่ย้ายมาเวสต์แฮม ทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง

เคสของ ลินการ์ด คือหนึ่งในความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นฤดูกาลนี้ มันน่าเหลือเชื่อมากๆและไม่เคยมีใครคาดคิดแน่นอน

จากค่าตัว 15 ล้านปอนด์ที่จะย้ายในซัมเมอร์ที่จะถึง ตอนนี้อาจปาเข้าไป 35 ล้านปอนด์แล้ว

เขาอาจไม่สมหวังที่จะได้เล่นกับแมนฯยูไนเต็ดอีกต่อไป แต่อย่างน้อยก็ได้พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าตัวเองแล้ว

และใครกำลังหาเว็บไซด์ที่พิสูจน์ตัวเองมานานหลายปีล่ะก็นี่เลย MYSBOBET ติดต่อเลยที่ https://line.me/R/ti/p/@my-sb99 หรือ 08-0003-1188 / 08-0003-117
---------------------------------------------
เห็นก่อน อ่านก่อน !!
กด "ติดตาม" และเลือก "เห็นโพสต์ก่อน (See First) "
https://www.facebook.com/cheerball/