สำนวนทีท่ว่า 'งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา' ยังคงใช้ได้เสมอไม่ว่ายุคสมัยไหน ไม่ว่าจะเหตุการณ์อะไร และตอนนี้มันก็เกิดขึ้นกับชายที่มอบหัวใจให้กับสโมสรหนึ่งเดียวมาตลอดทั้งชีวิตที่ชื่อว่า ไรอัน กิ๊กส์ ตลอดระยะเวลาที่เจ้าตัวก้าวเข้ามาเป็นดาวเตะอคาเดมี่ของสโมสร ประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะ และผันตัวมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม แถมยังได้รับโอกาสก้าวขึ้นไปรั้งบังเหียนผู้จัดการทีมในช่วงระยะเวลาสั้นๆอีกต่างหาก หลายๆคนคงเข้าใจและรู้ดีว่าทุกวันนี้วงการลูกหนังมันเปลี่ยนแปลงไปยังไง แน่นอนมันหายากมากๆที่จะได้เห็นนักเตะซักคนอยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน เอาจริงๆเมื่อพูดถึงตอนนี้ผมนึกออกแค่ ดานิเอเล่ เด รอซซี่ กับ ฟรานเชสโก้ ต๊อดติ ของ โรม่า นั่นแหละครับ เพราะซูปเปอร์สตาร์หลายคนเมื่อถึงบั้นปลายอาชีพพวกเขาเริ่มที่จะเลือกไปกอบโกยเงินทั้งในลีกสหรัฐอเมริกา ในจีน หรือแม้แต่ลีกตะวันออกกลางอย่างที่เราได้เห็นกันตามหน้าเวบไซด์กีฬาชื่อดังทั่วโลก เอาจริงๆผมก็แอบสงสัยเหมือนกันนะว่าทำไมอดีตดาวเตะเจ้าของฉายาอย่าง "ปีกพ่อมด" ไม่เคยมีข่าวหลุดออกมาในช่วงบั้นปลาย หรือเรื่องการย้ายทีมที่ผมจำได้แค่ว่า อินเตอร์ มิลาน พยายามจะคว้าตัวไปแค่ทีมเดียวเท่านั้น จะว่าฝีเท้าไม่ถึงก็ไม่ใช่ แต่มันก็เป็นคำถามที่ไม่จำเป็นจะต้องไปหาคำตอบ กิ๊กส์ ก็คือ กิ๊กส์ เขาเป็นบุคคลที่สมควรจะจบชีวิตการค้าแข้งในถิ่น โอล แทร๊ฟฟอร์ด แบบนี้แหละครับ แถมด้วยการซึมซับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเป็นโค้ช เป็นผู้จัดการทีมแล้วอีกต่างหาก การเลือกเดินออกไปในคราวนี้มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องก็ได้นะครับภายหลังจากการอยู่ใน โรงละครแห่งความฝัน มา 29 ปีเต็มหากว่าในอนาคตเป้าหมายของ กิ๊กส์ คือขึ้นแท่นมาเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรที่เปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตแล้วล่ะก็ ประสบการณ์นี่แหละครับคือตัวสำคัญและ กิ๊กส์ ก็จำเป็นจะต้องก้าวออกไปเมื่อกุนซือใหญ่ที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามา ทำไมถึงต้องเป็น มู เหรอ ? คิดในแง่ดีก็คือชื่อชั้นของ มูรินโญ่ เนี่ยมันแน่นอนครับว่าคือ 'ความสำเร็จ' และ กิ๊กส์ ก็ได้ผ่านงานผู้ช่วยมาแล้ว 3 ปีเต็มๆกับ เดวิด มอยส์ และ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งหากจะให้อยู่ต่อเรื่อยๆมันก็ใช่เรื่อง ถึงเวลาแล้วครับที่จะให้บุคคลประวัติศาสตร์ของสโมสรออกไปหาประสบการณ์ เพื่อที่จะกลับมาเป็นตำนานอีกครั้งหากว่า 'โอกาส' นั้นมาถึงสถิติทุกสิ่งทุกอย่างของ ไรอัน กิ๊กส์แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (2 สมัย) : 1998–99, 2007–08พรีเมียร์ลีก (13 สมัย) : 1992–93, 1993–94, 1995–96, 1996–97, 1998–99, 1999–2000, 2000–01, 2002–03, 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2010–11, 2012–13เอฟเอ คัพ (4 สมัย) : 1993–94, 1995–96, 1998–99, 2003–04ลีก คัพ (4 สมัย) : 1991–92, 2005–06, 2008–09, 2009–10ยูฟ่า ซูปเปอร์ คัพ : 1991อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ : 1999 (สโมสรโลกเดิม)ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ : 2008คอมมิวนิตี้ ชิลด์ (9 สมัย) : 1993, 1994, 1996, 1997, 2003, 2007, 2008, 2010, 2013รางวัลส่วนตัวผู้เล่นยอดเยี่ยมของ PFA : 2008-09ผู้เล่นดาวรุ่งของ PFA (2 สมัย) : 1991–92, 1992–93ทีมยอดเยี่ยมของ PFA (6 สมัย) : 1992–93, 1997–98, 2000–01, 2001–02, 2006–07, 2008–09ทีมยอดเยี่ยมของศตวรรษของ PFA : 1997–2007เซอร์ แมตต์ บัสบี้ อวอร์ด : 1997-98ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเวลส์ (2 สมัย) : 1996, 2006ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของ พรีเมียร์ลีก : กันยายน 1993, สิงหาคม 2006, กุมภาพันธ์ 2007สถิติและเกร็ดต่างๆ- ลงเล่นเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร 963 นัด- ยิงไป 168 ประตู- สัญญาฉบับแรกของ กิ๊กส์ เซ็นกันวันที่ 9 กรกฏาคม 1990- และสัญญาอาชีพฉบับแรกเกิดขึ้นตอนเขาอายุครบ 17 ปีในวันที่ 29 พฤศจิกายน 1990- ลงสนามครั้งแรกแทนที่ของ เดนิส เออร์วิน ที่บาดเจ็บในเกมพบกับ เอฟเวอร์ตัน เดือนมีนาคม 1991 - เกมนั้น ยูไนเต็ด แพ้ 1-0- กิ๊กส์ ยิงประตูแรกได้ในการลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และทีมชนะไป 1-0 ใน โอล แทร๊ฟฟอร์ด- หากรวมการลงสนามใน ดิวิชั่น 1 กิ๊กส์ จะลงเล่นให้ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 672 นัด- กิ๊กส์ ลงสนามใน พรีเมียร์ลีก ไปทั้งหมก 632 นัดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะอังกฤษ- กิ๊กส์ ยิงประตูต่อเนื่องกัน 22 ฤดูกาล แต่ในปีสุดท้ายที่ลงเล่น (2013-14) เขาไม่สามารถยิงได้- ภายหลังจากที่ กิ๊กส์ ได้รับตำแหน่งแทน เดวิด มอยส์ เขาเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองลงสนามในเกมที่พบกับ ฮัลล์ ซิตี้ และเป็นนัดสุดท้ายของตนเองในฐานะนักฟุตบอล- ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ เชลซี ได้ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คือเกมที่ กิ๊กส์ ทำสถิติลงสนามเทียบเท่า เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน- กิ๊กส์ คว้าถ้วยรางวัลได้ 34 โทรฟี่ส์ เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ- 13 ประตูคือจำนวนที่ กิ๊กส์ ยิงได้เยอะที่สุดต่อ 1 ฤดูกาล (1993-94)- แชมป์แรกของ กิ๊กส์ คือ ยูโรเปี้ยน ซูปเปอร์ คัพ ในเกมที่ ยูไนเต็ด ชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ปี 1991- แชมป์สุดท้ายคือ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2013- กิ๊กส์ ได้ใบแดงจากการเล่นให้ทีมชาติเวลส์ในปี 2001 ก่อนที่เขาจะโดนใบแดงจากการเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด- กิ๊กส์ เป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ยิงประตูใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ 16 ฤดูกาล- กิ๊กส์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น OBE ในปี 2007- กิ๊กส์ มีเทสติโมเนี่ยลแมตช์ของตัวเองกับ กลาสโกว์ เซลติก ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 29 ปีเค.เค.pic : Mirror